เที่ยวเกาะพีพีช่วงไฮซีซั่น : ช่วงเวลาที่ทะเลอันดามันสวยที่สุดของปี

เมื่อพูดถึงทะเลฝั่งอันดามัน “เกาะพีพี (Phi Phi Islands)” คือชื่อแรกๆ ที่หลายคนคิดถึง —
ด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสราวกระจก ชายหาดขาวละเอียด และภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตา
จนได้รับการยกย่องให้เป็น “สวรรค์แห่งอันดามัน” ที่ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต

แต่หากอยากเห็นเกาะพีพีในช่วงเวลาที่สวยที่สุดของปี
คำตอบมีเพียงช่วงเดียว — “ฤดูไฮซีซั่น” หรือเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน
เพราะนี่คือช่วงที่อากาศดีที่สุด ทะเลนิ่งที่สุด และน้ำใสที่สุด เหมาะสำหรับทุกกิจกรรมตั้งแต่ดำน้ำ พายคายัค ไปจนถึงพักผ่อนริมชายหาด


☀️ ทำไม “ไฮซีซั่น” จึงเป็นช่วงที่ดีที่สุดของเกาะพีพี

  1. ฟ้าเปิด น้ำใส คลื่นสงบ

    • ในช่วงปลายฝนต้นหนาว อากาศแห้งและฟ้าแจ่มใสเป็นพิเศษ

    • ทะเลนิ่ง เรือเดินทางสะดวก ไม่ต้องกลัวเมาคลื่น

    • น้ำทะเลจะใสราวกับกระจก เห็นพื้นทรายและฝูงปลาได้ชัดเจน

  2. เหมาะกับทุกกิจกรรมทางน้ำ

    • ทั้งดำน้ำตื้น (Snorkeling) และดำน้ำลึก (Diving)

    • พายเรือคายัค ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก หรือแม้แต่กระโดดน้ำจากสปีดโบ๊ตก็ปลอดภัยกว่า

    • สำหรับช่างภาพหรือสายคอนเทนต์ ช่วงนี้คือเวลาที่ “สีทะเลและท้องฟ้าสวยที่สุดของปี”

  3. บรรยากาศครึกครื้นแต่ไม่แออัดเกินไป

    • นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติหลั่งไหลมา แต่ยังคงบรรยากาศสนุกแบบชิล ๆ

    • ร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ และกิจกรรมต่าง ๆ เปิดครบ 100%


📅 ช่วงเวลาแนะนำในการไปเที่ยว

  • พฤศจิกายน – ธันวาคม : ฟ้าใส ลมเย็น น้ำใสระดับ 10/10

  • มกราคม – กุมภาพันธ์ : ช่วงพีคที่สุดของปี เหมาะกับการถ่ายรูปและเล่นน้ำ

  • มีนาคม – เมษายน : ทะเลยังใส แต่เริ่มร้อน เหมาะกับสายดำน้ำและพักรีสอร์ตริมทะเล

🕒 ช่วงเวลาที่แนะนำในแต่ละวัน

  • เช้า (07.00 – 10.00 น.) : ทะเลใส ฟ้าเปิด แสงสวย เหมาะกับดำน้ำและถ่ายรูป

  • เย็น (16.00 – 18.00 น.) : ลมเย็น บรรยากาศโรแมนติก เหมาะกับชมพระอาทิตย์ตก


🏝️ จุดเช็กอินห้ามพลาดช่วงไฮซีซั่น

1. อ่าวมาหยา (Maya Bay)

โลเคชันระดับโลกจากภาพยนตร์ The Beach ที่เพิ่งกลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอีกครั้ง

  • น้ำทะเลใสราวกระจก

  • หาดทรายขาวละเอียด

  • ถ่ายรูปสวยที่สุดช่วงเช้า (07.00–09.00 น.)

2. อ่าวปิเละ (Pileh Lagoon)

ลากูนสีมรกตกลางภูเขาหินปูนที่ใครเห็นเป็นต้องตกหลุมรัก

  • สามารถลงเล่นน้ำได้ในโซนที่กำหนด

  • แนะนำให้มาเช้าก่อนเรือทัวร์ใหญ่จะเข้า

3. Phi Phi Viewpoint

จุดชมวิวที่มองเห็นทะเลสองฝั่งของเกาะพีพีดอนได้แบบพาโนรามา

  • ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 30–40 นาที

  • เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก

4. หาดลิง (Monkey Beach)

หาดเล็ก ๆ ที่มีลิงอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ

  • น้ำทะเลใสมาก

  • ถ่ายรูปวิวทะเลพร้อมสัตว์ป่าน่ารัก ๆ ได้ในจุดเดียว

5. เกาะไผ่ (Bamboo Island)

เกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ทางเหนือของพีพี น้ำใสระดับโลก

  • ดำน้ำดูปะการังรอบเกาะได้

  • เป็นเกาะที่เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อน


🐠 กิจกรรมแนะนำในช่วงไฮซีซั่น

ประเภทกิจกรรมรายละเอียดเหมาะกับ
ดำน้ำตื้น (Snorkeling)จุดยอดนิยม: อ่าวลิง, เกาะไผ่, อ่าวลาน่าทุกวัย
ดำน้ำลึก (Scuba Diving)เห็นปะการังนานาชนิดและฝูงปลาสวยงามนักดำน้ำมืออาชีพ
ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกทัวร์ช่วงเย็นพร้อมอาหารค่ำบนเรือคู่รัก / ครอบครัว
พายคายัคพายรอบอ่าวตื้น ๆ หรือเข้าไปชมปิเละลากูนสายชิล
ปีนเขา + ชมวิวเดินขึ้นจุดชมวิวพีพีสายลุย / ช่างภาพ

🏨 ที่พักและการเดินทาง

การเดินทางสู่เกาะพีพี

  • จากภูเก็ต: เรือเฟอร์รี่ใช้เวลา 2 ชั่วโมง / Speedboat ประมาณ 45 นาที

  • จากกระบี่: เรือเฟอร์รี่ประมาณ 1.5 ชั่วโมง / Speedboat 35–40 นาที

ที่พักแนะนำ

  • หาดโละดาลัม (Loh Dalum Beach): เหมาะกับสายปาร์ตี้

  • หาดลองบีช (Long Beach): วิวสวย เงียบสงบ

  • หาดแสม (Samae Beach): เหมาะกับคู่รักและครอบครัว

💡 เคล็ดลับ: ควรจองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือนในช่วงธันวาคม–กุมภาพันธ์ เพราะเป็นพีคสุดของปี


🧭 เคล็ดลับเที่ยวเกาะพีพีช่วงไฮซีซั่น

  • จองเรือทัวร์ล่วงหน้า เพื่อเลือกเวลาที่คนไม่เยอะ

  • เตรียมครีมกันแดดและหมวก เพราะแดดแรงกว่าฤดูอื่น

  • งบประมาณต่อวัน ประมาณ 1,500–3,000 บาท (รวมอาหาร ที่พัก และกิจกรรม)

  • เน้นเที่ยวช่วงเช้า–บ่ายต้น ๆ แสงสวย น้ำใส และไม่ร้อนมาก


🌅 สรุป: เกาะพีพีในฤดูไฮซีซั่น — ความสวยที่ต้องมาสัมผัส

ฤดูไฮซีซั่นคือเวลาที่เกาะพีพี “สมบูรณ์แบบที่สุด” สำหรับการเที่ยวทะเลอันดามัน
น้ำทะเลใสราวคริสตัล ฟ้าเปิด แสงอาทิตย์อบอุ่น และกิจกรรมมากมายให้เลือกทำ
ไม่ว่าคุณจะเป็นสายชิลที่อยากนอนฟังเสียงคลื่น หรือสายลุยที่อยากดำน้ำกลางทะเลสีมรกต
เกาะพีพีในช่วงพฤศจิกายน–เมษายน จะมอบภาพจำที่ไม่มีวันลืม

เพราะที่นี่…
ไม่ได้เป็นเพียงเกาะสวย แต่คือประสบการณ์ของความสุขท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอันดามัน